ชี้แก้ รธน.เพื่อประโยชน์ประชาชนไม่ใช่ผลเลือกตั้ง…
ตอนวันที่ 16 ไม่.ย. นายตรวจตรา เชาวพัฒนวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ รวมทั้งรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีระบบลงคะแนนเสียงบัตร 2 ใบ แบบประเทศเยอรมัน ว่า ช่วงนี้สังคมไทยบางครั้งอาจจะเข้าใจผิดไปว่า การเลือกตั้งแบบสองใบ มีแม้กระนั้นแบบปี 2540 แค่นั้น แม้กระนั้นจริงๆยังมีระบบระเบียบที่ดียิ่งกว่าอีกทั้ง 2 แบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบรัฐธรรมนูญ 60 หรือ 40 ซึ่งเป็นแบบบัตรสองใบรวมทั้งสะท้อนจุดหมายของพลเมืองก้าวหน้าที่สุด ระบบนี้เรียกว่า ระบบลงคะแนนเสียงแบบสัดส่วนผสม Mixed Member Proportional MMP” เล่าแบบง่ายๆคือ “เลือกผู้ที่ใช่ เลือกพรรคที่ถูกใจ ได้จำนวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในสัดส่วนที่ถูกต้อง” โดยการเลือกตั้งแบบระบบเยอรมัน คุณมีบัตร 2 ใบ ใบแรกเลือก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต อีกใบเลือกพรรค โดยใช้ทั้งประเทศเป็นเขต ขาเเนนใบที่เลือกพรรค จะเอามาคำนวนเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมี แทนที่จะเอาคะแนนเลือก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตทุกเขตมารวมแล้วมาคำนวณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พึงมี แบบ รัฐธรรมนูญ 60 แล้วเอาขาเเนนพึงมี มาเป็นตัวกำหนดว่า แต่ละพรรคจะต้องมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเยอะแค่ไหน ถ้าหากได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตมากกว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พึงมี คุณก็ได้ไปเท่านั้น แม้กระนั้นถ้าหากได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต น้อยกว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พึงมี ก็ไปบวก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในบัญชีรายชื่อ ด้วยวิธีการแบบงี้ที่เยอรมันเขาใช้ มันเลยจำเป็นต้องว่าต้องมี Over Hang Seat คือมีจำนวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มากกว่า 500 คน เพื่อสัดส่วน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในสภาของแต่ละพรรค สะท้อนต่อ โหวตเตอร์ หรือ ความอยากของพลเมือง จริงๆ
นายตรวจตรา บอกว่า ระบบลงคะแนนเสียงแบบ MMP หรือแบบเยอรมัน เป็นระบบลงคะแนนเสียงแบบบัตร 2 ใบ ที่แตกต่างจากแบบบัตร 2 ใบ แบบ รัฐธรรมนูญ 40 ที่นับคะแนนเสียงแบบคู่ขนาน ที่ทำให้พรรคการเมืองใหญ่ถึงที่กะไว้นั่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เกินกว่าคะแนนเสียงที่ได้รับ ซึ่งไม่สะท้อนจุดหมายของพลเมืองคนที่ลงคะแนนเสียงได้จริงๆระบบลงคะแนนเสียงแบบ MMP ที่นำคะแนนนับด้วยกัน จะเข้ามาแก้จุดอ่อนของบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแบบเดิม ที่จะทำให้สัดส่วนที่นั่งในสภากับสัดส่วนคะแนนที่พรรคการเมืองได้รับมีความใกล้เคียงกัน อันที่จริงแล้วระบบลงคะแนนเสียงแบบรัฐธรรมนูญ 60 ก็เอาระบบลงคะแนนเสียงแบบ MMP มาดัดแปลงให้อยู่บัตรใบเดียว ที่ไม่สามารถที่จะสะท้อนจุดหมายของพลเมืองได้ว่าเลือกผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต หรือเลือกพรรค
“มันมิได้อยู่ว่าพรรคก้าวไกลจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งแบบไหน การปรับแต่งรัฐธรรมนูญ ควรจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของพลเมือง ไม่ใช่เพื่อผลของการลงคะแนนเสียง หรือเพื่อประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง การมีระบบระเบียบลงคะแนนเสียงที่สะท้อนเสียงโหวตเตอร์ก้าวหน้าที่สุด จำเป็นที่จะต้องเป็นช่องทางที่ดียิ่งกว่า” นายตรวจตรากล่าว…