วันที่ 23 ม.ค.65 เพจเฟซบุ๊ก “ซีทรู” โพสต์ข้อความบอกว่า …
กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอย่างยิ่งจริงๆสำหรับ “ศิลปินหอยทาก” ท่านหนึ่ง ที่ชอบตรวจตราทำบุญทำกุศลไปทั่ว ไปทำแต่ละคราวก็ทุ่มเงินมากมายก่ายกอง ที่ไหนว่าดี ที่ไหนว่าดัง ที่ไหนว่าเด็ด ศิลปินท่านนี้ก็จะไปกราบงามๆ
ล่าสุดศิลปินหอยทากก็นำหมู่คณะไปป่ายปีนถ้ำเพื่อความปัง ทำเอาชาวบ้านสวดกันยับถึงความเป็นวีไอพี ผู้ใดกันแน่ไปที่ถ้ำในวันนั้นรู้ๆกันอยู่ เนื่องจากเริ่มตั้งแต่เชิงเขาทำพิธีเส้นไหว้ใหญ่มหึมา จัดเต็มเครื่องเสียงดนตรีก้องกังวานเช่นเดียวกันกับเปิดการแสดงดนตรีให้ทวยเทพ ต่อจากนั้นก็นำพาภาควิชาบุญขึ้นถ้ำ โดยมีไกด์นำพาไปมูเตลู
เมื่อไปถึงรอบๆจุดต่างๆศิลปินหอยทากและก็ภาควิชาต่างก็ตั้งใจอธิษฐานจิตแบบทีละคนๆซึ่งก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร เนื่องจากปกติก็จะให้อธิษฐานกันทีละคนอยู่แล้ว แต่ภาควิชาศิลปินหอยทากกลับใช้เวลานานมากมาย มองไม่เห็นหัวใจภาควิชาอื่นๆที่ต่อคิวอยู่ ทั้งๆที่การแบ่งปันเอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่นเป็นการแสดงถึงขิตหัวใจและก็มรรยาทที่ดีเลิศ ผลของการเอิงเอ่ยของศิลปินแอนด์เดอะแก๊งค์ ทำให้ภาควิชาอื่นๆจำต้องรอคิวกันเป็นชั่วโมงๆ
เท่านั้นยังไม่พอศิลปินหอยทากและก็ภาควิชายังได้นำข้าวของไปไหว้ ซึ่งเป็นข้อที่ไม่อนุญาต สร้างภาระให้กับข้าราชการจำเป็นจะต้องเก็บและก็หากของพวกนั้นบังเอิญหล่นปลิวกระจายไป ก็จะเป็นการสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมและก็สัตว์ป่าไปอีก
หนักสุดเห็นจะเป็นไฮไลท์สำคัญที่สุดของการมูเตลูคราวนี้ เป็นการนำเอากระเป๋าเงินข้าวของต่างๆไปอธิษฐานจิต ซึ่งปกติก็จะมีการต่อคิวอธิษฐานทีละคนเป็นหมู่คณะ แต่มีกฏเป็นห้ามนำเอาข้าวของไปวางไว้บนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ภาควิชาศิลปินหอยทากก็แหกกฏเอากระเป๋าเงิน มือถือ เงิน ไปวางไว้ภายในเรื่องต้องห้าม หากแม้ไกด์จะห้ามก็ไม่ฟัง หันมาเอ็ดไกด์ว่า จะรีบทำรีบเสร็จอย่าทำให้เสียเวล่ำเวลา ทำเอาไกด์จ๋อยไปอย่างยิ่งจริงๆ
ด้านภาควิชาอื่นๆที่อดทนมานาน เริ่มทนไม่ได้ เริ่มแผดเสียงโวยวายกัน ศิลปินแอนด์เดอะกลุ่มก็หันวับไปบอก ขอให้เงียบกำลังจะทำพิธี! ทุกคนอดทนจนกว่าจะถึงที่สุดเนื่องจากมาทำบุญทำกุศลมาขอพร
ผลของการขอพรอันช้านาน 8 หน้ากระดาษของศิลปินหอยทากและก็ภาควิชา นำมาซึ่งการทำให้ภาควิชาอื่นๆที่ต่อคิว ไม่สามารถที่จะไปขอพรอธิษฐานจิตทีละคนเหมือนที่ภาควิชาหอยทากทำได้ เนื่องจากเวลาจำกัด ฟ้าเริ่มมืดแล้ว และก็ยังมีอีกหลายภาควิชาหลายคิวที่ต่อคิวยาวเหยียด
นำมาซึ่งการทำให้คนที่ขอพรต่อจากภาควิชาหอยทาก จำต้องขอพรข้างนอกเท่านั้นและก็รวมกระเป๋าเงินมาอธิษฐานร่วมจิต แถมจำต้องเดินลงจากถ้ำท่ามกลางความมืด จำต้องควักหาไฟฉายมาส่องตามทาง ช่วงเวลาที่ข้าราชการข้างล่างก็จำต้องขึ้นมาตามเนื่องจากมืดแล้ว เดือดร้อนชาวบ้านไปทั่ว
ส่วนภาควิชาหอยทากวีไอพีลงถ้ำไปดินเนอร์แล้วแรง อ๋อรู้ข่าวว่าภาควิชานี้ทริปหนัก ให้ค่าไกด์หลักหมื่นเชียว
เรื่องนี้ความจริงอย่างใด คนที่ไปถ้ำวันนั้นคงรู้ๆกันอยู่ และก็รู้ดีถึงที่มาของคำว่า “ศิลปินหอยทาก” ทุกคนเกิดขึ้นมาก็ต้องการมีอยากได้ต้องการรวยกันทั้งหมดล่ะ แต่ควรจะให้มันพอเหมาะพอดี สองมือพนม ปากพร่ำขอพร แต่ไม่มีน้ำใจให้กับผู้อื่น แถมยังแหกกฎอย่างนี้ บอกเลยทวยเทพไม่โง่นะจ๊ะ…
#ศิลปินหอยทาก