“อสุรกายแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง ไปแบบสุดมัน เข้ารอบ 5 เอฟเอคัพได้เสร็จ แล้วก็นี่เป็น 4 เรื่องสำคัญที่ได้มองเห็นจากเกมนี้
1.รูปเกมแลกเปลี่ยนกันเดือด ผู้ใดกันแน่พลาดโดน
แมนยูฯ ออกสตาร์ตเกมนี้ได้ค่อนข้างจะดีอย่างยิ่งจริงๆ ได้ลุ้นก่อนถึง 2 จังหวะจากการยิงของ เมสัน กรีนวูด ครั้งแรกยิงไปติดเซฟ อลิสสัน ครั้งลำดับที่สองหลุดเสาแรก จริงๆจังหวะแรกถ้าจ่ายให้ ฟาน เดอ เบค ที่วิ่งเพิ่มเติมขึ้นมาก็บางครั้งอาจจะได้ประตูไปแล้ว จากนั้นนาทีที่ 18 กลายเป็น หงส์แดง ที่ออกนำก่อน 1-0 แบบง่ายๆเลย เมื่อ โรกางร์โต เฟอร์มิโน ส่งบอลทะลุไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าจุดโทษก่อนชิพบอลข้ามตัว ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไป ทว่านาทีที่ 26 แมนยูฯ ตีเสมอ 1-1 เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายไปฝั่งขวาให้ เมสัน กรีนวูด หลุดไปยิงตุงตาข่าย จากนั้นแมนยูฯ ครองเกมไว้ได้หมดก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1 ต่อกันที่ช่วงหลัง เริ่มมาแค่ 3 นาที แมนยูฯ ขึ้นนำ 2-1 เมื่อ เมสัน กรีนวูด ส่งบอลขึ้นมาทางซ้าย รีส วิลเลียมส์ ปราการหลังดาวรุ่งลิเวอร์พูลสกัดบอลวืด เลยมาถึง แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย เกมเปิดแลกเปลี่ยนกันเดือด นาทีที่ 58 หงส์แดง ตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ เจมส์ ไม่ลเนอร์ ตัดบอลได้ในแดนของยูไนเต็ดก่อนจ่ายแม้กระทั่ง เฟอร์มิโน ผ่านบอลเข้ากลาง ไม่ลเนอร์ ข้ามหลอกให้ ซาลาห์ ยิงเข้าไป พอตีเสมอได้เสร็จ หงส์แดง ฝ่าใส่อย่างหนักเพื่อหวังเอาประตูเพิ่ม แต่ว่าการยิงของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ กับ ซาลาห์ โดน ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟไว้ได้ทั้งหมดทั้งปวง จนกระทั่งนาทีที่ 77 แมนยูฯ มาได้ฟรีคิกหน้าจุดโทษ แล้วก็เป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ปั่นเข้าไปตุงตาข่าย พาอสุรกายแดงคว้าชัย 3-2 ไปท้ายที่สุด ตีตั๋วเข้ารอบ 16 กลุ่มได้เสร็จ ไปเจอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
2.ฟาน เดอ เบค-แม็คโทมิเนย์ ทำได้ไม่ดีพอ
เกมนี้ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ดูไปดูมาเหมือนจะดีเพราะว่ามีจังหวะเล่นบอลจังหวะเดียวแบบงามๆให้มองเห็น จนถึงช่วยให้กลุ่มมีลุ้นทำประตู แต่ว่าพอเล่นไปเรื่อยๆดันค่อยๆหายไปจากเกมแล้วก็หน้าที่ค่อนข้างจะน้อย แล้วก็เป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ที่ลงมาแทนที่เขาแล้วก็เป็นคนซัดฟรีคิกเป็นประตูชัยให้อสุรกายแดงในเกมนี้ บางครั้งบางคราว ฟาน เดอ เบค อาจจะต้องใช้เวลาสำหรับในการปรับนิสัยให้เข้ากับระบบการเล่นของกลุ่มอีกสักระยะ แต่ว่า โอเล กุนท้องนาร์ โซลชารื ทำถูกแล้วที่ให้โอกาาสเขาได้ลงสัมผัสเกมสำคัญๆแบบงี้ เพื่อจะทำให้ตัวนักเตะมีความเชื่อมั่นและมั่นใจที่จะต้อสู่สำหรับในการชิงตำแหน่งในกลุ่มต่อไป ส่วน สกอตต์ แม็คโทมิเนยื วันนี้ดูเฉือยแปลกๆเข้าบอลช้าหนึ่งจังหวะตลอด ยิงจังหวะเสียประตูแรกเขาปล่อยให้ เฟอร์มิโน ได้ส่งบอลให้ ซาลาห์ หลุดไปยิงกล้วยๆไม่บากบั่นจะเข้าไปบีบแย่งบอลแต่อย่างใด แม้กระนั้น น้องแม็ค ก็ยังเป็นนักเตะคนสำคัญของกลุ่มเพราะว่าฤดูกาลนี้มันมีนัดที่เขาเล่นดีมากกว่าเล่นห่วยนั่นเอง
3.ชอว์, แรชฟอร์ด, กรีนวูด, บรูโน สุดปัง
นัดหมายนี้ถ้าไม่นับจังหวะปล่อยให้ ซาลาห์ วิ่งแซงไปยิงขึ้นนำ 1-0 จัดว่า ลุค ชอว์ สะดุดตามากมายๆโดยเฉพาะการวิ่งขึ้นวิ่งลงแบบไม่มีหมด เพิ่มเติมเกมรุกได้อย่างดุเดือดจนได้ขึ้นมาเปิดบอลหลายหน เล่นแบบงี้คงจะทำให้ อเล็กซ์ เตลเลส ยากมากมายที่จะแทรกขึ้นมาแย่งตัวจริงได้ แม้กระนั้นนี่เป็นสิ่งที่ทำให้มองเห็นได้ว่า การที่ยูไนเต็ดดึง เตลเลส เข้ามา นั้นทำให้ ลุค ชอว์ ยกระดับฝีเท้าขึ้นมาอย่างชัดเจน เพราะว่ามีคนคอยลุ้นแทรกชิงตำแหน่งนั่นเอง ส่วน แรชฟอร์ด บางวันดีบางวันห่วย แต่ว่านัดหมายนี้บอกเลยว่าโหดสุดๆโดยเฉพาะจังหวะเปิดบอลให้ กรีนวูด หลุดไปยิงตีเสมอนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมากมายๆแล้วก็จังหวะที่เจ้าตัวได้หลุดไปยิงขึ้นนำ 2-1 ก็จบสกอร์ได้อย่างเลิศเลอ ในเวลาที่ กรีนวูด แม้ว่าจะพลาด 2 โอกาสทองในตอนต้นเกม แต่ว่าก็มาแก้ตัวยิงตีเสมอ 1-1 ให้กลุ่ม แล้วก็ยังได้มา 1 แอสซิสต์จากการจ่ายให้ แรชฟอร์ด ยิง จะต้องยกนิ้วให้การประสานงานระหว่าง กรีนวูด แล้วก็ แรชฟอร์ด ที่เข้าขากันสุดๆส่วน บรูโน ไม่ต้องบอกมาก ลงมาแล้วยกระดับกลุ่มได้ทันที ก่อนจะซัดฟรีคิกปลิดวิญญาณพาทีมคว้าชัยไปท้ายที่สุด
4.แนวรับหงส์อาการหนัก-เกมรุกดียิ่งขึ้น
กล่าวได้ว่าโดนงามมาแต่ละหนรั่วกระจัดกระจาย สำหรับแนวรับของหงส์แดงที่เกมนี้จัด 4 คน จากซ้ายไปขวามี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, รีส วิลเลียมส์ แล้วก็ เทรนต์ อเล็กซานดอร์ อาร์โนลด์ เริ่มกันที่จังหวะเสียประตูตีเสมอ 1-1 โดนโต้กลับเร็ว ไม่มีใครเข้าไปบีบบ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้เปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายไปขวาให้ เมสัน กรีนวูด หลุดไปยิงกล้วยๆกล่าวได้ว่าแผงหลังหลุดกันยกแผง ส่วนจังหวะโดนแซงนำ 2-1 รีส วิลเลียมส์ จะต้องรับผิดชอบไปคนเดียวแบบเต็มๆเพราะว่าสกัดลูกเปิดของ เมสัน กรีนวูด วืด จนถึงทำให้บอลหลุดไปถึง แรชฟอร์ด ควบพาบอลเข้าไปยิงตุงตาข่าย
ส่วนจังหวะเสียประตูที่ 3 ฟาบินโญ จะต้องรับผิดชอบเพราะว่าดันไปทำฟาวล์ในระยะที่อันตราย จนถึงถูก บรูโน เฟอร์นันเดส ซัดฟรีคิกเข้าไป ส่วนเกมรุกของลิเวอร์พูล กลับมาสดชื่นอีกครั้งโดยเฉพาะ โรกางร์โต เฟอร์มิโน กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำได้ดีเยี่ยมๆเฟอร์มิโน จัดไป 2 แอสซิสต์แบบงามๆส่วน ซาลาห์ ก็เรียกความเฉียบคมกลับมาได้จาก 2 ประตูที่ทำได้ในเกมนี้